แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 11
1

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ







2
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


3
รถกระบะรับจ้าง รถรับจ้างขนของจังหวัดชัยภูมิ ขนย้ายของทุกวันทันใจ ปลอดภัยราคา

รถรับจ้างขนของจังหวัดชัยภูมิ เรามีบริการรับจ้างขนของ ที่หลากหลายและบริการมาอย่างยาวนาน เช่น รถรับจ้างขนย้ายบ้านจังหวัดชัยภูมิ รถกระบะรับจ้างจังหวัดชัยภูมิ รถ6ล้อรับจ้างจังหวัดชัยภูมิ รถเฮี๊ยบรับจ้างจังหวัดชัยภูมิ รถสิบล้อรับจ้างจังหวัดชัยภูมิ รถเทรลเลอร์รับจ้างชัยภูมิ และรถประเภทอื่นๆ ไม่ต้องรอนานและหาไม่ยากอีกต่อไปอย่างแน่นอน รถขนของจากเมื่อก่อนจนถึงปัจจุบัน การขนย้ายของในทุกวันนี้ การขยายตัวธุรกิจรถรับจ้างและเศรษฐกิจในจังหวัดก็เริ่มขยายตัวไปอย่างมาก ทำให้เรามีรถรับจ้างขนย้ายที่ให้บริการ จำนวนมากทุกอย่างอยู่ในความดูแลของขนส่งบริการรถรับจ้างจังหวัดชัยภูมิ มีรถอีกมากมายอย่างครบถ้วน

เพราะเราเข้าใจในงานธุรกิจคุณที่ท่านจะต้องมาใช้บริการรถรับจ้างขนย้ายประเภทต่างๆ เราจึงมีการจัดรถขนของชนิดต่างๆ เพื่อนำมาให้บริการ จนกระทั่งตอนนี้เรามีบริการทุกชนิดและรถที่เราให้บริการมีทุกประเภทเพื่อการใช้บริการที่ไม่ต้องลังเล ส่วนการใช้บริการรถรับจ้างของเรานั้นบริการรถรับจ้างขนย้ายของจังหวัดชัยภูมิ มีงานขนย้ายขนของให้บริการทุกวัน คุณต้องใช้บริการเวลาไหนก็โทรเข้ามาสั่งจองล่วงหน้าย่อมเป็นการดีที่สุดค่ะ บริการทุกวันบริการแบบไม่มีวันหยุด เมื่อท่านต้องการใช้บริการเราท่านก็สามารถเรียกใช้บริการเราได้ทันทีเมื่อท่านต้องการ แต่ถ้าท่านต้องการแบบด่วนท่านต้องโทรมาล่วงหน้าเพื่อจองประมาณ 4 ชั่วโมง ท่านถึงจะได้รถในวันนี้ ถ้าท่านต้องการซึ่งบริการเราบริการมีความเป็นกันเองให้บริการที่รวดเร็วและเรายังมีพัฒนาการบริการอยู่ตลอดเวลา เน้นคุณภาพในการขนย้ายเป็นหลัก เพื่อให้บริการเป็นไปตามมาตรฐานที่ดี บริการรถรับจ้างขนของเรามีข้อบกพร่องในเรื่องใดทางเรายินดีที่จะปรับปรุงและพัฒนาในการบริการในครั้งต่อไปเพื่อจะได้ไม่มีข้อบกพร่องในการ ให้บริการท่านในครั้งต่อไป

รถรับจ้างจังหวัดชัยภูมิ หายากมั้ย บอกเลยว่าเรามีทุกจุดบริการรถในทุกจุดคือ

รถรับจ้างอำเภอเมืองชัยภูมิ

รถรับสร้างอำเภอเกษตรสมบูรณ์

รถรับจ้างอำเภอซับใหญ่

รถรับจ้างอำเภอคอนสวรรค์

รถรับจ้างอำเภอบ้านเขว้า

รถรับจ้างอำเภอจัตุรัส

รถรับจ้างอำเภอภักดีชุมพล

รถรับจ้างอำเภอเทพสถิต

รถรับจ้างอำเภอเนินสว่าง

รถรับจ้างอำเภอแก่งคร้อ

รถรับจ้างอำเภอบ้านแท่น

รถรับจ้างอำเภอบำเหน็จณรงค์

รถรับจ้างอำเภอหนองบัวแดง

รถรับจ้างอำเภอภูเขียว

รถรับจ้างอำเภอคอนสาร

รถรับจ้างอำเภอหนองบัวระเหว

เราให้บริการในการขนย้ายบ้าน ขนส่งสินค้าเป็นหลักไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุตสาหกรรม ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสินค้าทางการเกษตร จำพวกผัก ผลไม้ ในทุกช่วงฤดูกาลเราก็มีรถวิ่งขนย้ายให้กับท่านในทุกวัน โดยเราให้บริการทั้งภายในจังหวัดและต่างจังหวัดกันเลยค่ะ ส่วนราคาในค่าบริการรถรับจ้างขนของชัยภูมินั้น ซึ่งเราจะคิดจากระยะทางในการขนส่งในอัตราที่ถูกและย่อมเยา รับรองได้เลยว่าค่าบริการของเราจะถูกกว่าที่อื่นหลายแห่งอย่างแน่นอน เรากล้ารับประกันได้เลยค่ะเพราะบริการเราเป็นหนึ่งและครองใจคนทั้งจังหวัดชัยภูมิไปแล้วค่ะ

สถานที่ ท่องเที่ยวในจังหวัดชัยภูมิมีสถานที่เที่ยวที่มากมายที่ทำให้นักท่องเที่ยวติดใจและสนใจเป็นอย่างมาก หากท่านใดต้องการมาเที่ยวชมและสัมผัสความเป็นธรรมชาติเรามีสถานที่ท่องเที่ยวมาแนะนำดังต่อไปนี้

มอหินขาว
เป็นหนึ่งในที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คของชัยภูมิ อยู่ในอุทยานแห่งชาติภูแลนคามีลักษณะเป็นเสาหินและแท่งหินขนาดใหญ่ ในช่วงฝนตกถ้าสังเกตดีๆ จะมีลานดินล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้าและดอกไม้ป่าสวยงามท่ามกลางอากาศที่บริสุทธิ์ พื้นป่าเขียวขจีและชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย พร้อมทั้งลานกางเต็นท์เพื่อนอนชมดาวโรแมนติกสุดๆ ค่ะที่นี้เราก็มีรถขนของรับจ้างบริการให้กับท่านด้วยนะคะ โทรมาได้ในทันที

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
เป็นพระเอกที่หนีไม่พ้นทุ่งดอกกระเจียวและเป็นประจำทุกปี ที่อุทยานแห่งนี้จะจัดงานเทศกาลดอกกระเจียวบาน ถึงแม้ว่าอาจจะต้องเสี่ยงเจอกับฝนในช่วงฤดูฝนแต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะเราได้เห็นดอกกระเจียวบานสีชมพูกระจายอยู่เต็มพื้นที่ตลอดเส้นทางที่ทอดยาวคดเคี้ยวไปตามจุดต่างๆ และก็สามารถชมทิวทัศน์และถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ค่ะที่นี้เราก็มีรถรับจ้างขนของ รับจ้างบริการด้วยรถรับจ้างทุกประเภท ทั้ง รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง รถเทรลเลอร์รับจ้าง รถรับจ้างย้ายบ้านชัยภูมิ โทรมาได้ในทันที

น้ำตกตาดโตน
ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน เป็นน้ำตกที่มีน้ำตลอดทั้งปีและสวยงามเป็นพิเศษในช่วงมิถุนายน - ตุลาคม และลงมาเป็นม่านน้ำตกขนาดใหญ่ดูสวยงามตื่นตาตื่นใจ นักท่องเที่ยวก็สามารถลงเล่นน้ำได้ในบริเวณแอ่งน้ำด้านบนและด้านล่างของหน้าผา ช่วงที่มีน้ำปริมาณมากกระแสน้ำแรงก็ระมัดระวังเป็นพิเศษนะคะ

 หากท่านต้องการใช้บริการรถรับจ้างขนของจังหวัดชัยภูมิ ขาดตกบกพร่องอย่างวไรต้องขออภัยด้วยนะคะเราจะนำปรับปรุงให้ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอนเราสัญญา เรามีรถให้บริการไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถเครนรับจ้าง รถเทรลเลอร์รับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง รถขนส่งสินค้า รถ 4 ล้อใหญ่รับจ้าง รถรับจ้างขนย้ายทั่วไปและอื่นๆ อีกมากมายให้ท่านได้เลือกใช้บริการ ไม่ว่าท่านต้องการงานขนย้ายที่จะใช้รถรับจ้างอะไรก็ตามไม่ว่าอยู่เขตพื้นที่ไหน ไปเที่ยวไหน เดินทางยังไง ติดต่อเข้ามาที่เราทำก็จะได้รับการบริการอย่างเป็นกันเองและเร็วทันใจอย่างแน่นอน โดยเราจะมีการขนย้ายของให้ท่านทุกรูปแบบ และมีรถรับจ้างทุกขนาดให้ท่านได้เลือกใช้บริการ มาใช้บริการเราวันนี้แล้วท่านก็จะติดใจและประทับใจอย่างแน่นอน และต้องขอบคุณทุกความไว้วางใจของคนในจังหวัดชัยภูมิและจังหวัดต่างๆ ที่มาใช้บริการรถรับจ้างและสนับสนุนงานบริการเรามากกว่า 10 ปี รวมไปจนถึงลูกค้าจังหวัดอื่นๆ  และทั่วประเทศเราต้องขอบคุณท่านเป็นอย่างมากที่ไว้ใจและเชื่อมั่นในการบริการของเรา ขอบคุณค่ะ



4
เที่ยววัดโพธิ์เก้าต้น วัดดัง เก่าแก่ สิงห์บุรี ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ แห่ง ค่ายบางระจัน

ไปเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพ ชม วัดดัง ของ ที่เที่ยวสิงห์บุรี กันบ้างดีกว่า เรียกได้ว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดทางประวัติศาสตร์เลย เพราะมีบทบาทสำคัญอย่างมากใน่ชวงที่ชาวบ้านบางระจันได้ต่อสู้กับพม่า นั่นก็คือวัดที่มีชื่อว่า วัดโพธิ์เก้าต้น อีกทั้งหลายๆ คนน่าจะได้ยินชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ของวัดนี้กันมาบ้าง ถ้าอย่างนั้นตามเรามาชมประวัติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดกันเลยค่า


ประวัติ วัดโพธิ์เก้าต้น

     วัดโพธิ์เก้าต้น ตั้งอยู่ที่หมู่ 8 ตำบลบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจันเลยค่ะ โดยเป็นสถานที่ที่วีรชนชาวบ้านบางระจันได้เคยใช้เป็นที่มั่นในการต่อต้านพม่าที่ยกกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 2308 นั่นเองค่ะ วัดนี้เลยมีทั้งความเก่าแก่ และความศักดิสิทธิ์ รวมถึงยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกด้วย

     ทำให้กรมศิลปกรได้ขึ้นทะเบียนให้ วัดโพธิ์เก้าต้น เป็นโบราณสถานในปี พ.ศ. 2498 แล้วค่ะ เมื่อก่อนนั้นชาวบ้านจะเรียกวัดนี้ว่า วัดไม้แดง เพราะภายในบริเวณวัดจะมีต้นไม้แดงขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเองค่ะ และยังมีความเชื่อกันอีกว่าไม้แดงนี้เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ที่ไม่มีผู้ใดกล้าตัดทำลาย ซึ่งก็เคยมีต้นไม้แดงที่อายุมากกว่า 200 ปี ยืนต้นตายอยู่ภายในวัดอีกด้วยค่ะ


ไฮไลท์ ของ วัดโพธิ์เก้าต้น

     ปัจจุบันนี้ก็ได้มีการสร้างค่ายจำลองไว้บริเวณหน้า วัดโพธิ์เก้าต้น ด้วย ส่วนภายในวัดก็จะมี วิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ หรือ หลวงพ่อยิ้ม พระผู้เป็นที่พึ่งของชาวบ้านยามเมื่อเกิดศึกสงครามค่ะ รวมถึงยังเป็นที่เคารพบูชาของชาวจังหวัดสิงห์บุรีมาอย่างยาวนานเช่นกัน โดยเชื่อกันว่าถ้าได้มาบนบานกับรูปประติมากรรมพระอาจารย์ธรรมโชติแล้ว เมื่อได้สมใจปรารถนาแล้ว ก็ต้องมาแก้บนด้วยการหาบน้ำมาเติมลงใน สระน้ำพระธรรมโชติ นั่นเองค่ะ

     รวมถึงตัววัดนั้นจะอยู่ติดกับ ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน เลยค่ะ เราสามารถไหว้พระเสร็จแล้ว ก็แวะไปเที่ยวช้อปชิมชิลต่อที่ตลาดได้ด้วย อีกทั้ง วัดโพธิ์เก้าต้น ยังเดินทางมาง่ายๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มานัก และห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรีแค่ประมาณ 15 กิโลเมตร สามารถมาได้โดยใช้ถนนเส้นทางหลวงหมายเลข 3032 ได้เลยค่า


    ที่อยู่ : หมู่ 8 ตำบลบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
    โทร : -

5
มิตซูบิชิ ไทรทัน 2024: เปิดตัว Mitsubishi Pajero Sport และ Triton ที่มาพร้อมชุดแต่ง

ตำนาน Ralliart กลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้ง โดยครั้งนี้ ทางมิซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้เปิดตัว 2 รุ่นรถ ที่มาพร้อมชุดแต่ง Ralliart ได้แก่รุ่น Pajero Sport และ Trition

แรลลี่อาร์ต คือ ฝ่ายพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงเพื่อใช้ในการแข่งขันฯ ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส รวมทั้งยังดูแลรับผิดชอบในด้านการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมยานยนต์และการเตรียมความพร้อมในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตต่างๆ ทั้งแบบแรลลี่และออฟโรด พร้อมทั้งยังช่วยพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงและชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อส่งมอบให้แก่ลูกค้าของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส

หากย้อนกลับไปในช่วงต้นทศวรรษที่ 80  แรลลี่อาร์ต ได้ถูกก่อตั้งขึ้น และสามารถสร้างชื่อเสียงในระดับโลกมากมายให้แก่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ด้วยการครองตำแหน่งเจ้าแห่งแรลลี่ทะเลทรายสุดหฤโหดอย่าง ดาการ์ แรลลี่

พร้อมกันนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยังคงเดินหน้าคว้าแชมป์จากรายการแข่งขันต่างๆ อย่างต่อเนื่องในช่วงปลายทศวรรษที่ 90 โดย มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น ยังได้รับการขนามนามว่าเป็น เจ้าแห่งแรลลี่

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แรลลี่อาร์ต จึงพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบในความโดดเด่น สัมผัสได้ถึงความสปอร์ต ความปราดเปรียว และจิตวิญญาณแห่งชัยชนะในแบบเดียวกับรถแข่งระดับตำนาน ด้วยการพัฒนารถยนต์พร้อมติดตั้งชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ ถือเป็นจุดเชื่อมต่อทางประวัติศาสาตร์ที่มุ่งสู่ตำนานแห่งชัยชนะนับครั้งไม่ถ้วน ที่สามารถสื่อสารและส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการ พร้อมครองใจลูกค้าคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน โดยเปิดตัว 2 รุ่นรถ ที่มาพร้อมชุดแต่ง Ralliart ได้แก่รุ่น Pajero Sport และ Trition

Mitsubishi Pajero Sport Ralliart ใช้พื้นฐานรุ่นย่อย GT Plus 8AT 2WD

อุปกรณ์ตกแต่ง แรลลี่อาร์ต

    ชุดตกแต่งกันชนหน้า และหลัง แรลลี่อาร์ต
    ชุดตกแต่งบังโคลนซุ้มล้อ
    พรมปูพื้นแรลลี่อาร์ต
    แผ่นกันโคลนแรลลี่อาร์ต
    สติ๊กเกอร์ด้านข้างแรลลี่อาร์ต

อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษจากโรงงาน

    กระจังหน้าสีดำ
    ไฟหน้าพร้อมแถบตกแต่งสีดำ
    ล้ออัลลอยสีดำ
    หลังคาสีดำ

Mitsubishi Triton Mega Cap Ralliart ใช้พื้นฐานรุ่นย่อย GLX 5MT 2WD

อุปกรณ์ตกแต่ง แรลลี่อาร์ต

    ชุดตกแต่งใต้กันชนหน้าแรลลี่อาร์ต
    แผ่นกันโคลนแรลลี่อาร์ต
    สติ๊กเกอร์ด้านข้างแรลลี่อาร์ต
    พรมปูพื้นแรลลี่อาร์ต
    พื้นปูกระบะท้ายแรลลี่อาร์ต

อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษจากโรงงาน

    กระจังหน้าสีดำ
    ล้ออัลลอยสีดำ
    หลังคาสีดำ
    กรอบกระจกมองข้างสีดำ พร้อมไฟเลี้ยว
    มือเปิดประตูด้านนอกสีดำ
    มือเปิดกระบะท้ายสีดำ
    กันชนท้ายสีดำ
    หน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน

Mitsubishi Triton Double Cap Ralliart ใช้พื้นฐานรุ่นย่อย GLX 5MT 2WD

อุปกรณ์ตกแต่ง แรลลี่อาร์ต

    ชุดตกแต่งใต้กันชนหน้าแรลลี่อาร์ต
    แผ่นกันโคลนแรลลี่อาร์ต
    สติ๊กเกอร์ด้านข้างแรลลี่อาร์ต
    พรมปูพื้นแรลลี่อาร์ต
    พื้นปูกระบะท้ายแรลลี่อาร์ต

อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษจากโรงงาน

    กระจังหน้าสีดำ
    ล้ออัลลอยสีดำ
    หลังคาสีดำ
    กรอบกระจกมองข้างสีดำ พร้อมไฟเลี้ยว
    มือเปิดประตูด้านนอกสีดำ
    มือเปิดกระบะท้ายสีดำ

6
สุขภาพดี: เทคโนโลยีใหม่พลังไอน้ำเพื่อรักษาต่อมลูกหมากโต

ต่อมลูกหมากโตเป็นภาวะที่พบบ่อยในผู้ชายสูงอายุที่อาจนำไปสู่อาการทางเดินปัสสาวะที่น่ารำคาญ แม้ว่าจะมีทางเลือกในการรักษาหลายวิธี เทคโนโลยีพลังไอน้ำใหม่เป็นทางเลือกในการรักษาสำหรับผู้ชายที่มีต่อมลูกหมากโต Rezūm Therapy เป็นขั้นตอนที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และมีการบุกรุกน้อยที่สุด แต่แนวทางใหม่และนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีพลังงานไอน้ำกำลังได้รับความสนใจในเรื่องประสิทธิผล

การรักษาที่ก้าวล้ำนี้เรียกว่า Rezūm Therapy ควบคุมพลังของไอน้ำเพื่อกำหนดเป้าหมายและลดขนาดเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากที่ขยายใหญ่ขึ้น นี่คือวิธีการทำงาน:

ขั้นตอน : Rezūm Therapy เป็นหัตถการผู้ป่วยนอกโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ มีการเสียบอุปกรณ์พกพาขนาดเล็กเข้าไปในท่อปัสสาวะเพื่อส่งไอน้ำที่ควบคุมอย่างแม่นยำไปยังเนื้อเยื่อต่อมลูกหมาก

Steam Application : ไอน้ำจะถูกส่งไปยังบริเวณเฉพาะของต่อมลูกหมาก ทำให้เซลล์เนื้อเยื่อเป้าหมายถูกทำลาย กระบวนการนี้ทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับการรักษาอย่างทั่วถึง

การลดเนื้อเยื่อ : เมื่อเวลาผ่านไป เนื้อเยื่อต่อมลูกหมากที่ได้รับการรักษาจะหดตัวลง ช่วยลดแรงกดดันต่อท่อปัสสาวะ และลดอาการทางเดินปัสสาวะ

ผลลัพธ์ : การศึกษาทางคลินิกแสดงให้เห็นว่า Rezūm Therapy ช่วยให้อาการทางเดินปัสสาวะและคุณภาพชีวิตของผู้ชายที่เป็นเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยทั่วไปผู้ป่วยจะรู้สึกโล่งใจภายในไม่กี่สัปดาห์หลังการรักษา และคาดหวังผลลัพธ์ที่ยาวนาน

ประโยชน์ที่ได้รับ : ข้อดีหลักประการหนึ่งของ Rezūm Therapy คือลักษณะที่มีการบุกรุกน้อยที่สุด แตกต่างจากขั้นตอนการผ่าตัดแบบดั้งเดิมสำหรับเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล Rezūm Therapy ไม่ต้องการการผ่าตัดใดๆ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและลดระยะเวลาการฟื้นตัว

ความปลอดภัย : Rezūm Therapy ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ผู้ชายส่วนใหญ่สามารถกลับมาทำกิจกรรมตามปกติได้ภายในไม่กี่วันหลังการรักษา

การให้คำปรึกษา : หากคุณหรือคนที่คุณรักมีอาการต่อมลูกหมากโต ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะเพื่อกำหนดแนวทางการรักษาที่ดีที่สุด Rezūm Therapy นำเสนอทางเลือกใหม่ที่เป็นนวัตกรรมที่อาจช่วยบรรเทาและปรับปรุงคุณภาพชีวิตได้

เทคโนโลยีพลังไอน้ำใหม่เป็นทางเลือกในการรักษาสำหรับผู้ชายที่มีต่อมลูกหมากโต Rezūm Therapy เป็นขั้นตอนที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และมีการบุกรุกน้อยที่สุด ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการทางเดินปัสสาวะได้ในระยะยาว ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับทางเลือกการรักษาที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้

7
จัดฟันบางนา: อาการต่างๆ ที่สามารถพบได้หลังจากใส่ฟันปลอม

ฟันปลอม ถือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ทางทันตกรรม เพื่อนำมาใช้ทดแทนฟันจริงตามธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากว่าฟันปลอมในสมัยนี้ถูกออกแบบและสร้างจากวัสดุที่มีความแข็งแรงและไม่ทำลายส่วนต่างๆโดยรอบ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นออกมาดีเป็นอย่างมาก

โดย ฟันปลอม นั้นถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานทดแทนฟันแท้ตามธรรมชาติ เช่น การบดเคี้ยว กัดฉีกอาหาร ช่วยทำให้การออกเสียงมีความชัดเจน ป้องกันปัญหาต่อเนื่องที่เกิดขึ้นนั่นก็คือฟันโน้มเอียงเนื่องจากเกิดช่องว่างของฟัน อีกทั้งยังช่วยเรื่องความสวยงาม สำหรับผู้ที่สูญเสียฟันแท้ไปแล้วเกิดความไม่มั่นใจในการพูด การยิ้ม หรือการติดต่อประสานงาน ทำให้เกิดปัญหาด้านบุคลิกภาพอย่างมาก ให้กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง กล้ายิ้ม กล้าพูดคุย ส่งเสริมบุคลิกภาพให้ดียิ่งขึ้น

ซึ่งในวันนี้ทาง Clinic จะขอมาตอบคำถามที่หลายๆท่านคาใจ เกี่ยวกับเรื่องของฟันปลอม ไม่ว่าจะเป็นอาการที่อาจจะเกิดขึ้นและวิธีแก้ไข รวมถึงวิธีการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ซึ่งเราจะขอมาไขข้อสงสัยเหล่านี้ไปด้วยกัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


ประเภทของฟันปลอม ?

– ฟันปลอมทั้งปาก

การทำฟันปลอมทั้งปากถือว่าต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยจะใช้กับคนไข้ที่สูญเสียฟันทั้งหมดไป ซึ่งอาจะเกิดจากอุบัติเหตุ โดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเลือกวิธีการรักษาเป็นรูปแบบฟันปลอมชั่วคราวและถาวร โดยจะทำการถอนฟันทั้งหมดแล้วจึงใส่ฟันปลอมแบบชั่วคราวทั้งปากทันทีที่ทำการถอนฟัน แต่ในระหว่างที่ใส่ฟันปลอมทั้งปากแบบชั่วคราวทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะนัดปรับฟันปลอมค่อนข้างบ่อย เนื่องจากว่า เหงือกและกระดูกมีการเปลี่ยนรูปร่างค่อนข้างเร็วหลังจากถอนฟันหลายๆซี่ แต่ในบางครั้งทันตแพทย์จะแนะนำให้รอจนกว่าเหงือกและกระดูกจะเข้าที่แล้วใส่ฟันปลอมแบบถาวรครั้งเดียวเลย ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 – 3 เดือน

– ฟันปลอมบางส่วน

ฟันปลอมแบบบางส่วนนี้จะใช้ได้กับคนไข้ที่ยังคงมีฟันกรามบนหรือล่างหลงเหลืออยู่อย่างน้อย 1 ซี่ ซึ่งจะมีหน้าที่ในการใช้เติมเต็มช่องว่างของฟัน เพื่อไม่ให้เกิดการเคลื่อนที่ผิดรูปของฟันที่เหลือ โดยคนไข้สามารถถอดออกมาเองได้ด้วยการปลดตะขอ ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย

โดยฟันปลอมแบบบางส่วนนั้นฐานล่างมักจะผลิตจากโลหะ เพื่อความคงทนและแข็งแรง แต่ถ้าหากว่าเป็นฟันปลอมแบบชั่วคราว เพื่อใช้ทดแทนฟันที่หลุดไปชั่วคราว เพื่อรอให้เหงือกและกระดูกฟื้นตัว มักนิยมผลิตจากพลาสติก


อาการที่สามารถพบได้หลังจากใส่ฟันปลอม ?

โดยทั่วไปแล้วการใส่ฟันปลอมในระยะแรกๆนั้น จะมีปัญหามากๆเรื่องการบดเคี้ยวกัดฉีกอาหาร ซึ่งจะมีความรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ โดยอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงแรกๆเท่านั้น ต้องรอจนกว่ากล้ามเนื้อบริเวณกระพุ้งแก้มและลิ้นจะปรับตัวให้เคยชินกับฟันปลอมเสียก่อน ในช่วงที่ใส่ฟันปลอมใหม่ๆ ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกท่านมักแนะนำว่าให้รับประทานอาหารที่มีความนุ่มอ่อน เพื่อให้เกิดการปรับตัวเสียก่อน

ส่วนเรื่องการพูดนั้นอาจจะมีปัญหานิดหน่อยในเบื้องต้น แต่ไม่ใช่เป็นเป็นหาในระยะยาว และบางท่านอาจประสบปัญหาขั้นพื้นฐาน เช่น อาการระคายเคือง อาการปวด หรือการมีน้ำลายออกมามากกว่าปกติ เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นในระยะแรกของการใส่ฟันปลอมใหม่ๆ ซึ่งเป็นอาการที่ไม่น่าเป็นห่วงอะไร และจะค่อยๆลดลงและหายไปในที่สุดเมื่อช่องปากสามารถปรับตัวให้เข้ากับฟันปลอมได้นั่นเอง

ฟันปลอมอยู่ได้นานเท่าไหร่ ?

โดยทั่วไปแล้วหากว่าดูแลรักษาเป็นอย่างดี ฟันปลอมสามารถอยู่ได้นานถึงประมาณ 15 ปี  แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับภาวะการหดตัวของเหงือกและกระดูกตามธรรมชาติด้วย รวมถึงหากว่าเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้นช่องปากก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจจะส่งผลทำให้ฟันปลอมหลวม ส่งผลให้การบดเคี้ยวอาหารมีความยากลำบาก และอาจเกิดอาการระคายเคืองเหงือกตามมา

จึงอาจจำเป็นที่จะต้องเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการปรับ ทำใหม่ หรืออาจจะต้องทำการเปลี่ยนฐาน ตามแต่ที่ทันตแพทย์จะวิเคราะห์และเห็นสมควร ซึ่งการพบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยทุก 6 เดือน จึงยังถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าท่านจะใส่ฟันปลอมทั้งปากก็ตาม

8
โพสประกาศขายฟรี / Doctor At Home: แผลเพ็ปติก (Peptic ulcer)
« เมื่อ: วันที่ 11 กันยายน 2024, 17:05:19 น. »
Doctor At Home: แผลเพ็ปติก (Peptic ulcer)

แผลเพ็ปติก* หมายถึง แผลที่เกิดบนเยื่อบุกระเพาะอาหาร (stomach) ซึ่งเรียกว่า โรคแผลกระเพาะอาหาร หรือแผลจียู (gastric ulcer/GU) หรือแผลที่เยื่อบุลำไส้เล็กส่วนต้น (duodenum) ซึ่งเรียกว่า โรคแผลลำไส้เล็กส่วนต้น หรือแผลดียู (duodenal ulcer/DU)

แผลเพ็ปติกเป็นโรคที่พบได้บ่อย ประมาณร้อยละ10-20 ของคนทั่วไปจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต

แผลลำไส้เล็กส่วนต้น (ดียู) พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2-4 เท่า และพบมากในช่วงอายุประมาณ 30-55 ปี ขณะที่แผลกระเพาะอาหารพบในผู้ชายพอ ๆ กับผู้หญิง และพบในช่วงอายุประมาณ 55-70 ปี แต่ทั้ง 2 โรคนี้ก็สามารถพบได้ในคนทุกวัย

*เดิมนิยมเรียกว่า โรคกระเพาะ โดยวินิจฉัยจากอาการแสดง คือ ปวดท้องตรงยอดอกหรือใต้ลิ้นปี่ที่เกิดก่อนหรือหลังอาหาร (หิวแสบ-อิ่มจุก) เป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันพบว่าอาการดังกล่าวอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่จำเพาะว่าเกิดจากแผลเพ็ปติกเสมอไป ต้องอาศัยการตรวจโดยการใช้กล้องส่อง หรือเอกซเรย์โดยการกลืนแป้งแบเรียม จึงจะแยกสาเหตุได้ชัดเจน ดังนั้น คำว่า "โรคกระเพาะ" จึงมีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า "อาหารไม่ย่อย" ในที่นี้จึงขอใช้คำว่า "แผลเพ็ปติก" ในการเรียกชื่อโรคแผลกระเพาะอาหาร และแผลลำไส้เล็กส่วนต้น


สาเหตุ

แผลเพ็ปติก เกิดจากความเสียสมดุลระหว่างปริมาณกรดที่หลั่งในกระเพาะอาหาร กับความต้านทานต่อกรดของเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้  ถ้าหากมีการหลั่งกรดมากเกิน หรือความต้านทานต่อกรดลดลงก็ทำให้เกิดแผลเพ็ปติกขึ้นได้ ในปัจจุบันพบว่าสาเหตุสำคัญของการเกิดแผลเพ็ปติกได้แก่

1. การติดเชื้อเอชไพโลโร (H.pylori) ซึ่งเป็นแบคทีเรียแกรมลบ เชื้อนี้สามารถติดต่อโดยการกินอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระของผู้ติดเชื้อ แล้วเข้าไปฝังตัวอยู่ใต้เยื่อบุกระเพาะอาหาร ในระยะแรกอาจทำให้เกิดกระเพาะอาหารอักเสบ ซึ่งจะเป็นเรื้อรังนานเป็นแรมปีหรือนับเป็นสิบ ๆ ปี ต่อมาทำให้กลายเป็นแผลลำไส้เล็กส่วนต้น (พบเชื้อนี้ในผู้ที่เป็นแผลชนิดนี้ถึงร้อยละ 95-100) หรือแผลกระเพาะอาหาร (พบเชื้อนี้ในผู้ที่เป็นแผลชนิดนี้ถึงร้อยละ 75-85)

ในการติดตามผลการรักษาผู้ป่วยแผลเพ็ปติกด้วยการใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะลำไส้ พบว่า การรักษาโรคแผลเพ็ปติกโดยวิธีดั้งเดิม (ให้ยาลดกรดและยาลดการสร้างกรด) นั้น ผู้ป่วยจะมีแผลกำเริบถึงร้อยละ 70-85 ใน 1 ปี แต่ในกลุ่มที่ได้ยาปฏิชีวนะกำจัดเชื้อเอชไพโลไรตามวิธีการรักษาแนวใหม่จะมีแผลกำเริบน้อยกว่าร้อยละ 5 ใน 1 ปี ดังนั้น ในวงการแพทย์ปัจจุบันจึงยอมรับว่า เชื้อนี้เป็นตัวการสำคัญของโรคแผลเพ็ปติกถึงแม้จะยังไม่มีความชัดเจนในกลไกของการทำให้เกิดแผลเพ็ปติกจากเชื้อนี้ก็ตาม บ้างสันนิษฐานว่าเชื้อชนิดนี้ทำให้กลไกในการต้านทานต่อกรดของเยื่อบุกระเพาะอาหารลดลง

2. การใช้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ได้แก่ แอสไพริน และกลุ่มยาแก้ปวดข้อ (เช่น อินโดเมทาซิน ไอบูโพรเฟน นาโพรเซน เป็นต้น) พบว่าผู้ที่ใช้ยากลุ่มนี้เป็นประจำจะมีโอกาสเป็นแผลกระเพาะอาหารร้อยละ 10-30 และแผลลำไส้เล็กส่วนต้นร้อยละ 2-20 และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน (เช่น เลือดออก แผลทะลุ) มากกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ยากลุ่มนี้ถึง 3 เท่า ประมาณร้อยละ 1-2 ของผู้ใช้ยากลุ่มนี้เป็นประจำจะเกิดภาวะแทรกซ้อนภายใน 1 ปี ทั้งนี้เพราะยากลุ่มนี้ทำลายกลไกในการต้านทานต่อกรดของเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ (โดยการยับยั้งไม่ให้กระเพาะหลั่งเมือกออกมาปกคลุมเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้) นอกจากนี้ ยากลุ่มนี้บางตัวยังมีฤทธิ์เป็นกรดซึ่งระคายต่อเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้โดยตรง

กลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดแผลเพ็ปติกจากยากลุ่มนี้ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่ใช้ยากลุ่มนี้ในขนาดสูง ผู้ที่ใช้ยากลุ่มนี้นาน ๆ ผู้ที่ใช้ยากลุ่มนี้ร่วมกับสเตียรอยด์ ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลเพ็ปติกมาก่อน ผู้ที่มีภาวะเจ็บป่วยรุนแรง

3. ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ บางอย่างอาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคนี้ แต่บางอย่างอาจไม่มีความสัมพันธ์โดยตรง เช่น

    ประวัติการมีญาติพี่น้องเป็นแผลเพ็ปติก (อาจเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์) ทำให้มีโอกาสเป็นโรคนี้มากขึ้นเป็น 3 เท่า
    การสูบบุหรี่ เพิ่มโอกาสของการเป็นแผลลำไส้เล็กส่วนต้น ทำให้การรักษาได้ผลช้า และทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากขึ้น
    ผู้ที่มีเลือดกลุ่มโออาจเสี่ยงต่อการเป็นแผลลำไส้เล็กส่วนต้นมากกว่าปกติ
    ความเครียดทางอารมณ์ ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าเป็นสาเหตุของการเกิดแผลเพ็ปติกโดยตรงแต่พบว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้ป่วยโรคนี้เป็นแผลกำเริบได้
    แผลลำไส้เล็กส่วนต้น ยังอาจพบร่วมกับโรคอื่น ๆ เช่น ภาวะต่อมพาราไทรอยด์ทำงานเกิน (hyperparathyroidism ซึ่งจะมีภาวะแคลเซียมสูง และแคลเซียมกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดมาก) กลุ่มอาการซอลลิงเกอร์-เอลลิสัน (Zollinger-Ellison syndrome ซึ่งเป็นเนื้องอกในตับอ่อนและลำไส้เล็กส่วนต้น ทำให้มีการหลั่งกรดและน้ำย่อยมากเกิน) ภาวะไตวายเรื้อรัง ตับแข็งจากพิษแอลกอฮอล์ ถุงลมปอดโป่งพอง เป็นต้น
    แอลกอฮอล์ (ซึ่งเป็นสาเหตุของกระเพาะอักเสบชนิดเยื่อบุกร่อน ทำให้มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร) สเตียรอยด์ และกาเฟอีน ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นสาเหตุของแผลเพ็ปติกโดยตรง แต่ก็อาจทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้เป็นแผลกำเริบได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเหล่านี้ในผู้ป่วยแผลเพ็ปติก
    อาหารทุกชนิดไม่เป็นสาเหตุโดยตรงของการเกิดแผลเพ็ปติก แต่ถ้ากินแล้วทำให้มีอาการกำเริบ (เช่น อาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด น้ำส้ม น้ำผลไม้) ก็ควรจะหลีกเลี่ยง


อาการ

มักมีอาการปวดท้องเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังตรงบริเวณกลางยอดอกหรือใต้ลิ้นปี่ บางรายอาจค่อนมาทางขวาหรือซ้ายก็ได้ เวลาที่ปวดมักสัมพันธ์กับมื้ออาหาร เช่น ก่อนหรือหลังอาหาร ลักษณะการปวดอาจปวดแสบ ปวดตื้อ จุกเสียด หรือมีความรู้สึกหิวข้าวก่อนเวลาอาหาร บางครั้งอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือเรอเปรี้ยวร่วมด้วย

ในผู้ป่วยที่มีแผลลำไส้เล็กส่วนต้น มักมีอาการปวดท้องหลังกินอาหารแล้วประมาณ 1-3 ชั่วโมง หรือขณะท้องว่าง โดยมากจะเริ่มปวดตอนสาย ๆ ในช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ จะปวดมากขึ้น และอาจปวดมากตอนดึก ๆ จนต้องตื่นนอนหรือนอนไม่หลับ

อาการปวดมักดีขึ้นทันทีหลังกินอาหาร ดื่มนม หรือกินยาต้านกรด หรือหลังอาเจียน ถ้าแผลลุกลามไปที่ตับอ่อนอาจทำให้มีอาการปวดหลังร่วมด้วย และไม่หายปวดท้องหลังกินอาหาร

ในผู้ป่วยที่มีแผลกระเพาะอาหาร มักมีอาการปวดท้องหลังอาหารประมาณ 1/2-1 ชั่วโมง บางรายอาจมีอาการเบื่ออาหาร (ไม่อยากกิน เพราะกลัวปวดท้อง) และน้ำหนักลด

อาการปวดท้องมักเป็นอยู่นานหลายสัปดาห์ แล้วอาจหายไปได้เอง แต่ก็มักมีอาการกำเริบภายใน 1-2 ปีเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ลักษณะอาการของผู้ป่วยแผลลำไส้เล็กส่วนต้นกับแผลกระเพาะอาหาร  บางครั้งก็อาจแยกจากกันได้ไม่ชัดเจน เช่น อาการปวดท้องตอนดึกก็อาจเกิดในผู้ป่วยแผลกระเพาะอาหารได้เช่นกัน

ผู้ป่วยบางรายอาจเป็นแผลเพ็ปติกโดยไม่มีอาการแสดงก็ได้ เช่น พบว่ากลุ่มที่เป็นแผลจากยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์มีประมาณร้อยละ 50 ที่ไม่ปรากฏอาการหรือผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อน (เช่น ถ่ายดำ) ก็อาจไม่มีอาการปวดท้องมาก่อนก็ได้


ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าปล่อยให้เป็นเรื้อรังอาจมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ ที่พบบ่อยคือ ภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้น ผู้ป่วยจะมีอาการอาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายอุจจาระดำ ส่วนมากเลือดจะออกไม่มากและหยุดได้เอง ส่วนน้อยอาจมีเลือดออกมากจนบางครั้งเกิดภาวะช็อก ถ้าเลือดออกเรื้อรังก็อาจเกิดภาวะโลหิตจางจากภาวะขาดธาตุเหล็กได้

บางรายแผลอาจกินลึกจนเป็นรูทะลุ เรียกว่า แผลเพ็ปติกทะลุ ซึ่งอาจทำให้มีเยื่อบุช่องท้องอักเสบร่วมด้วยได้ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องรุนแรง และหน้าท้องแข็ง ควรได้รับการผ่าตัดแก้ไขโดยด่วน

บางรายอาจมีภาวะกระเพาะหรือลำไส้อุดกั้น มีอาการปวดท้องรุนแรง อาเจียนรุนแรง และท้องผูก

ในรายที่แผลกินลึกไปถึงตับอ่อนอาจทำให้มีอาการปวดหลัง หรือมีอาการของตับอ่อนอักเสบร่วมด้วย

ผู้ที่เป็นแผลกระเพาะอาหารเรื้อรังจากเชื้อเอชไพโลไรก็อาจมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยขั้นต้นจากอาการ ส่วนการตรวจร่างกายมักไม่พบสิ่งผิดปกติ บางรายอาจรู้สึกกดเจ็บเล็กน้อยตรงบริเวณลิ้นปี่

ในรายที่มีเลือดออก (เช่น ถ่ายดำ) อาจตรวจพบอาการซีด

เนื่องจากไม่สามารถวินิจฉัยจากอาการแสดง แพทย์จำเป็นต้องวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะลำไส้ หรือเอกซเรย์กระเพาะลำไส้โดยการกลืนแป้งแบเรียม บางรายแพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติม (เช่น การตรวจชิ้นเนื้อ การตรวจหาเชื้อเอชไพโลไร เป็นต้น)


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษาดังนี้ 

1. ถ้ามีอาการปวดกระเพาะครั้งแรกในคนอายุต่ำกว่า 40 ปี และสุขภาพทั่วไปแข็งแรงดี ไม่มีความผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าเป็นโรคแผลเพ็ปติกหรือไม่ แพทย์จะให้การรักษาเบื้องต้นแบบโรคกระเพาะหรืออาหารไม่ย่อย โดยแนะนำการปฏิบัติตัว และให้ยาลดการสร้างกรดกลุ่มยับยั้งโปรตอนปั๊มป์ (เช่น โอเมพราโซล, แพนโทพราโซล, แลนโซพราโซล, ราบีพราโซล เป็นต้น)

ถ้ารู้สึกทุเลาหลังกินยาได้ 2-3 ครั้ง ควรกินต่อจนครบ 2 สัปดาห์ ถ้ารู้สึกหายดีควรกินยานานประมาณ 8 สัปดาห์

ถ้ากินยา 2-3 ครั้งแล้วยังไม่รู้สึกทุเลาแม้แต่น้อย หรือทุเลาแล้วแต่กินจนครบ 2 สัปดาห์แล้วรู้สึกไม่หายดี หรือกำเริบซ้ำหลังจากหยุดกินยาจนครบ 8 สัปดาห์แล้ว หรือ มีอาการเบื่ออาหาร กลืนลำบาก น้ำหนักลด ซีด ตาเหลือง ตับโต ม้ามโต คลำได้ก้อนในท้อง อาเจียนรุนแรง หรือสงสัยเป็นโรคหัวใจขาดเลือด หรือนิ่วน้ำดี หรือพบในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุและความรุนแรงของโรคแผลเพ็ปติก และโรคอื่นๆที่อาจมีอาการคล้ายแผลเพ็ปติก นอกจากการใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะลำไส้แล้ว อาจทำการตรวจพิเศษอื่น ๆ ตามโรคที่สงสัย(เช่น ตรวจเลือด เอกซเรย์ อัลตราซาวนด์ คลื่นหัวใจ เป็นต้น)

2. เมื่อตรวจพิเศษแล้วพบว่าเป็นแผลเพ็ปติก แพทย์มีแนวทางการรักษา ดังนี้

2.1 แผลเพ็ปติกที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไพโลไร (จำเป็นต้องอาศัยการใช้กล้องส่อง และตรวจพบเชื้อเอชไพโลไร) การรักษามีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรเทาอาการปวดท้อง รักษาแผลให้หายและกำจัดเชื้อเอชไพโลไรโดยให้ยาดังนี้

    ยาลดการสร้างกรดกลุ่มยับยั้งโปรตอนปั๊มป์ นาน 6-8 สัปดาห์ ร่วมกับ
    ยาปฏิชีวนะ 2-4 ชนิดร่วมกัน นาน 10-14 วัน เช่น เมโทรไนดาโซล คลาริโทรไมซิน (clarithromycin) อะม็อกซีซิลลิน เตตราไซคลีน บิสมัทซับซาลิไซเลต (bismuth subsalicylate)

2.2 แผลเพ็ปติกที่ไม่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไพโลไร เป็นแผลเพ็ปติกที่ตรวจไม่พบการอักเสบจากเชื้อเอชไพโลไร อาจมีสาเหตุจากการใช้ยาแอสไพริน หรือกลุ่มยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ให้การรักษาด้วยยาลดการสร้างกรดกลุ่มโปรตอนปั๊มป์ นาน 4 สัปดาห์ (สำหรับแผลลำไส้เล็กส่วนต้นที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน) หรือนาน 6-8 สัปดาห์ (สำหรับแผลกระเพาะอาหาร หรือแผลเพ็ปติกที่มีภาวะแทรกซ้อน)

2.3 ในรายที่เป็นแผลเพ็ปติกเรื้อรังหรือเคยมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น หรือผู้สูงอายุ หรือในรายที่ยังสูบบุหรี่ อาจจำเป็นต้องกินยาลดการสร้างกรดนาน 3-6 เดือนหรือเป็นปี และอาจต้องใช้กล้องส่องตรวจและตรวจชิ้นเนื้อซ้ำจนกว่าแผลจะหายดี

ถ้าแผลเรื้อรังไม่ยอมหาย  อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด

3. ถ้ามีอาการอาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายดำ หน้ามืด เป็นลม ช็อก หรือมีอาการปวดท้องรุนแรง ปวดท้องติดต่อกันนานเกิน 6 ชั่วโมง อาเจียนรุนแรง หรือมีอาการท้องเกร็งแข็ง แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล และให้การรักษาตามภาวะที่พบ เช่น

    ถ้าเสียเลือดมากอาจต้องให้เลือด แล้วทำการตรวจหาสาเหตุ และให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ

ถ้าตรวจพบว่ามีภาวะแผลเพ็ปติกทะลุ หรือกระเพาะหรือลำไส้ตีบตัน จำเป็นต้องผ่าตัดด่วน


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดแสบหรือจุกแน่นตรงใต้ลิ้นปี่ ก่อนหรือหลังอาหารนานเกิน 1 สัปดาห์  มีอาการเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย หรือมีประวัติเคยตรวจพบว่าเป็นโรคแผลเพ็ปติกมาก่อน หรือกินแอสไพริน หรือยาแก้ปวดข้อเป็นประจำ หรือพบในคนอายุมากกว่า 40 ปี ควรปรึกษาแพทย์ 

เมื่อตรวจพบว่าเป็นแผลเพ็ปติก ควรดูแลตนเอง ดังนี้

1. กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

2. ติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด

3. ปฏิบัติตัว ดังนี้

    กินอาหารให้ตรงเวลาทุกมื้อ อย่าปล่อยให้หิว
    งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มกาเฟอีน น้ำอัดลม
    หลีกเลี่ยงการใช้แอสไพริน ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาสเตียรอยด์
    อาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด น้ำส้ม น้ำผลไม้ ถ้ากินแล้วมีอาการปวดท้องกำเริบ ควรงดจนกว่าจะหายดี
    ออกกำลังกายเป็นประจำ และหาวิธีผ่อนคลายความเครียด (ถ้าเครียด)

4. ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดท้องมาก อาเจียน อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระดำ ซีด ตาเหลือง คลำได้ก้อนในท้อง กินยารักษา 1 สัปดาห์แล้วไม่ดีขึ้น หรือมีอาการผิดสังเกตที่สงสัยว่าเกิดจากผลข้างเคียงจากยาที่ใช้ (เช่น ลมพิษ ผื่นคัน ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ปากแห้ง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดินหรือท้องผูก เป็นต้น)

การป้องกัน

ผู้ป่วยที่กินยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดแผลเพ็ปติก (เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่ต้องใช้ยานี้ในขนาดสูงหรือนาน ๆ หรือใช้ร่วมกับยาสเตียรอยด์ ผู้ที่เคยเป็นแผลเพ็ปติกมาก่อน เป็นต้น) แพทย์จะให้กินยาลดการสร้างกรดป้องกันควบคู่ด้วย

ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยควรกินยาอย่างต่อเนื่องและพบแพทย์ตามนัด การกินยาไม่ต่อเนื่องอาจทำให้กลายเป็นแผลเรื้อรังและรักษายากหรือมีภาวะแทรกซ้อนได้

2. เนื่องจากโรคแผลเพ็ปติกอาจมีอาการคล้ายอาหารไม่ย่อย (dyspepsia) ซึ่งมีสาเหตุได้หลากหลาย การวินิจฉัยโรคนี้ที่แน่ชัดจำเป็นต้องอาศัยการตรวจพิเศษ (เช่น ส่องกล้องหรือเอกซเรย์กระเพาะลำไส้)

3. มะเร็งกระเพาะอาหารระยะแรก (ซึ่งพบในคนอายุมากกว่า 40 ปีมากกว่าวัยที่ต่ำกว่า 40 ปี) อาจมีอาการคล้ายอาหารไม่ย่อย (dyspepsia หรือ "โรคกระเพาะ") หรือแผลเพ็ปติก และอาการสามารถทุเลาด้วยยาต้านกรดและยาลดการสร้างกรด แต่ต่อมาเมื่อแผลมะเร็งลุกลามมากขึ้น การใช้ยาจะไม่ได้ผล และจะมีอาการน้ำหนักลด อาเจียน หรือถ่ายดำตามมาได้ ดังนั้น หากรักษา "โรคกระเพาะ" โดยวินิจฉัยจากอาการแสดง 2 สัปดาห์แล้วไม่ดีขึ้น มีอาการกำเริบบ่อย หรือพบในคนอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป หรือมีประวัติเคยรักษาโรคแผลเพ็ปติกมาก่อน ควรปรึกษาแพทย์ให้ทำการตรวจพิเศษ (เช่น ส่องกล้องหรือเอกซเรย์กระเพาะลำไส้) เพื่อแยกแยะสาเหตุให้แน่ชัด หากพบว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารจะได้รับการรักษาแต่เนิ่น ๆ ซึ่งได้ผลดีกว่าพบในระยะลุกลามแล้ว

9
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/




10
มอเตอร์โชว์ 2025: BMW IX xDrive 50 Sport รถยนต์ไฟฟ้าที่สมราคาที่สุดเท่าที่เคยขับมา!

BMW IX xDrive 50 Sport รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้เปิดตัวมาก็นานแล้วแต่กลับมีเทคโนโนโลยีที่ยังล้ำสมัยและไม่ตกยุคหรืออาจจะมีฟังก์ชั่นที่โดดเด่นกว่าคู่แข่งหรือรถยนต์รุ่นใหม่ระดับเดียวกันในปัจจุบันด้วยซ้ำ และเป็นรถที่ขับง่าย คันเร่งและเบรกนุ่ม ๆ ไม่ต่างรถสันดาป แถมสบายท่านั่งผ่อนคลาย เบาะคู่หน้าที่ปรับได้ละเอียดให้รับกับตัวคนนั่งได้อย่างดี พื้นที่ภายในทั้งตอนหน้าและหลังกว้างขวางมาก ๆ หลังคาโปร่งโล่งสบายกระจกพาโนรามิคปรับลดแสงได้ในตัว และระบบไฟฟ้าทั้งคันประตูไฟฟ้า แบบ Smart entry สามารถเปิดได้ทุก ๆ ประตูไม่จำเป็นต้องเปิดแค่ปนะตูด้านหน้า ฝาท่ายไฟฟ้าพร้อม Hand free ใช้ง่ายแค่ยื่นเท้าระบบทำงานไว้แม่นยำมาก ไม่ต้องยืนรอนาน ผมกล้าบอกเลยว่า iX คันนี้นับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่สมกับราคาค่าตัว 6 ล้านกว่าบาทมากที่สุดในตอนนี้! 
 

ก่อนอื่นต้องบอกว่ารถยนต์ไฟฟ้าระดับนี้อาจแบ่งเป็นกลุ่มคนที่ต้องการซื้อ "เทคโนโลยี" ที่ตอบสนองการใช้งานได้หลากหลาย ถัดมาก็ซื้อ "ความประหยัดและสมรรถนะดีเยี่ยม" และสุดท้ายซื้อประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่าทั้งภายนอกภายในรวมถึงระบบต่างช่วยเหลือการขับขี่ต่าง ๆ ที่มีให้เต็มคัน และต้องเป็นผู้ที่ "เปิดใจ" อยากลองขับรถยนต์ไฟฟ้าและเป็นรถคันที่ 2 หรือ 3 ของบ้าน มาดูกันครับที่ผมบอกว่า "เป็นรถที่สมราคา" ที่สุดมันเป็นอย่างไร
 

 
ภายนอกและภายใน ยานยนอวกาศชัด ๆ
 
BMW iX xDrive 50 Sport มีความเป็นรถรูปทรงผสมผสานระหว่างความเป็น SAV/SUV ตัวรถทรงหลังคาสูงโปร่ง และมีส่วนท้ายยาวทำให้ตัวรถมีทั้งกว้างและยาวมาก นับเป็นแฮตช์แบ็ก 5 ประตูไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง ไฟหน้าระบบ BMW Laser แบบปรับระดับอัตโนมัติที่เลือกได้ทั้งปรับตลอดการขับขี่หรือล็อคระดับได้ ภายในโคมไฟหน้ายังมีระบบส่องสว่างสำหรับเลี้ยวเมื่อเปิดไฟเลี้ยวหรือหมุนพวงมาลัย


 
กระจังหน้าลวดลายแบบอนาคตพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับบนถนน และโลโก้ "BMW" ที่เปิดออกสำหรับเติมน้ำฉีดกระจก กันชนหน้าเรียบหรูดูสปอร์ต ฝากระโปรงหน้าออกแบบให้มีเส้นสายดุดันคล้ายรุ่นตระ "M sport" ในค่าย ซุ้มล้อขนาดใหญ่ พร้อมกับล้ออัลลอย 22 นิ้ว ยางหน้ากว้าง 275 แก้มขนาด 40 แต่กลับได้ความนุ่มนวลไม่แข็งกระด่างแต่อย่างใด
 

ด้านตัวรถใหญ่โตสมฐานะหลังคาพาโนรามิคในสไตล์ "Sky Sounge" เปิดไม่ได้นะ แต่ว่าความดฟี้ยวคือ ตัวแผ่นกระจกสามารถปรับลดแสงได้ด้วยปุ่มเดียว ระบบกระจกแบบแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทำให้ตัวกระจกขุ่นหรือใส่ได้ ด้วยระบบ PDLC (Polymer Dispersed Liquid Crystal) ซึ่งลดความร้อนได้จริงจังมาก!


อีกความจึ้งหนึ่งของ iX คันนี้คือ โครงสร้างตัวถังรถแบบ Aluminum Spaceframe ผสานกับ Carbon Cage ทำให้มีน้ำหนักเบาแข้งแรงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิต น้ำหนักของตัวรถรวมเพียง 2,585 กก. เท่านั้น สำหรับรถไซน์ผมถือว่าเบามากแล้วครับ
 

ระบบเปิด-ปิดประตูไฟฟ้าของ iX เป็นอีกจุดเด่นที่ไม่ควรมองข้าม! นั่นคือ สามารถเปิดประตูหรือปลดล็อครถได้ทุกประตู ไม่จำเป็นต้องไปสัมผัสหรือแตะเฉพาะที่มือจับคู่หน้าอย่างเดียว สามารถกดเปิดปุ่มที่อยู่ในมือเปิดได้ทันที่ทุกประตู! นับว่าสะดวกสบายมาก ๆ และเมื่อปิดประตูไม่จำเป็นต้องปิดแรง เพราะด้วยระบบตัวล็อคประตูนั้นเป็นไฟฟ้า ปิดเพียงเบา ๆ ระบบจะเกี่ยวและล็อคให้เองแบบเงียบ ๆ ไม่มีเสียง และสวิตช์ด้านในก้เป็นแบบปุ่มระบบไฟฟ้า แต่ซ่อนสลักเปิด "ฉุกเฉิน" เอาไว้กันเหนียวเวลาจำเป็นอีกด้วย BMW IX เค้าคิดมาอย่างดีเลยครับ อ๋อแล้วไม่ต้องกลัวเด็ก ๆ ตกรถถ้าแอบเปิดเอง เพราะที่ชุดควบคุมสวิตช์ด้านคนขับมีปุ่มล็อคกันเปิดมาให้ด้วย แต่จะล็อคทั้งประตูและกระจกพร้อมกัน
 

มาตรวัดแบบ 2 จอขนาดใหญ่ ตรงคนขับ 12.3 นิ้ว แสดงผลครบถ้วนเลือกรูปแบบหน้าจอได้หลากหลาย จอความบันเทิงกลางแบบสัมผัสขนาด 14.9 นิ้ว ที่มีระบบคำสั่งเสียงและท่าทางมือได้ พร้อมระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bower & Wilkins กับลำโพง 30 ตำแหน่ง เสียงเพราะมาก นุ่มลึก เบสไม่หนักเกินไป ฟังกำลังสบายหู
 
 
สวยมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมได้ทั้งระบบความบันเทิง ระบบการขับขี่ เลือกรูปแบบแสดผลจอและปรับไฟฟ้า 4 ทิส?ษง พร้อมกับจดจำตำแหน่งตามการปรับเบาะคนขับอีกด้วย และมีระบบปรับเลื่อนเก็บให้ง่ายต่อการเข้า-ออก ตรงคอนโซลกลางเป็นชุดควบคุมระบบเกียร์แบบจอยสติ๊กเลื่อนขึ้นลงปกติใช้ง่ายง่ายคุ้นเคย ปุ่ม Start/Stop และแผงควบคุมจอกลางที่ทำเป็นลายไม้เรียบหรูดูดี และปุ่มหมุนแบบคริสตัลที่ดูแพรวพราวมาก ๆ
 
 
ฝากระโปรงท้ายแบบ Hand-Free ระบบใช้ง่ายตรวจจับเท้าได้ทันใจมาก และ BMW คำนึกถึงความปลอดภัยในขณะเปิดฝาท้าย ไฟท้ายที่จะถูกเปิดขึ้นไป ทำให้อาจเกิดอันตราย จึงได้ติดตั้งระบบไฟส่องสว่างที่ด้านข้างของตัวรถ เอาไว้ให้สัญญาณเมื่อจอดที่มือและยังไว้เตือนในขณะเปิด-ปิดประตูอีกด้วย
 

นอกจากนี้เบาะหน้าและหลังยังออกแบบให้นั่งสบาย คู่หน้าปรับได้หลายทิศทางโดยเฉพาะปรับปีกพนักพิงให้กระชับหรือหลวมไว้ผ่อนคลายในขณะขับขี่ได้ เนื้อสัมผัสหรือวัสดุหุ้มเบาะนุ่มระบายอากาศได้ดี เข้ารูปนั่งแล้วไม่ดันไม่ตึงจนเจ็บตัว ทำให้ขับแล้วไม่เมื่อยล้าอีกด้วยครับ ส่วนเบาะหลังขนาดใหญ่นั่งสบายเช่นกัน มีพื้นที่ใช้สอยแบบเหลือ ๆ กว้าโปร่งโล่งสบายไม่อึดอัด สะดวกในการเข้าออก พร้อมที่วางแขนและพับเบาะแบนราบได้ แต่ที่วางแก้วน้ำตรงส่วนปลายของที่วางแขนนั้นดูจะไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่
 
 
ระบบปรับอากาศเป็นอีกจุดที่อยากจะเล่าคือ เมื่อเปิดรถระบบแอร์จะทำงานไว้ก่อน พอเริ่มกดปุ่มสตาร์ตก็จะสามารถขับไปได้ทันทีและแอร์ก็เย็นฉ่ำ ๆ ได้เร็วทันใจ สามารถปรับอุณภูมิ แนกได้ 6 โซน คือ หน้า-หลัง, หน้าแยกซ้าย-ขวา, หลังแยกซ้ายขวา ปรับแรงลมแยกได้แบบหน้า-หลัง พร้อมช่องแอร์ทั่วรถด้านหลังมีช่องแอร์บริเวณเสากลางและตอนท้ายคอนโซลกลาง และพื้นที่ด้านหลังเก็บของใหญ่โตและสามารถพับเบาะได้ด้วยสวิตช์ไฟฟ้า แต่ตอนพับขึ้นต้องได้มือดึงนะครับ
   

สมรรถนะแรงจัด เกาะหนึบไม่ย้วย ประหยัดไฟพอตัว
 
สมรรถนะอัตราเร่งจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่กำลัง 523 แรงม้า แรงบิด 765 นิวตันเมตร พร้อมระบบ xDrive ขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้ทั้งแรง ตอบสนองทันใจ เกาะแน่นหนึบด้วยช่วงล่างหลังแบบ 5-Link กับความแน่นหนึบและนุ่มนวลจากระบบโช้คอับที่เซตอย่างลงตัว ในความมั่นใจมาก ๆทั้งทางตรงทางโค้งหรือเปลี่ยนช่องทาง
 

การตอบสนองคันเร่งนุ่มนวลไม่กระชากทำให้ขับขี่ง่ายเหมือนรถน้ำมันทั่วไป ไม่ต้องปรับตัวเยอะ และใช้แรงกดแป้นคันเร่งกับเบรกน้อยมาก เรียกว่าเทียบจะเหมือนขับขี่รถยนต์สันดาป ทำให้ผู้ที่พึ่งได้ลองขับใหม่ ๆ ก็สามารถขับได้อย่างนุ่มนวล ปลอดภัย ไม่อันตราย ไม่พุ่งเร็วเกินไป ถือว่าควบคุมง่าย แต่เมื่อไหร่ที่เพิ่มน้ำหนักคันเร่งลงไปพลังมอเตอร์ไฟฟ้าจะพุ่งเร่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็วและทันใจ และยังควบคุมทิศทางได้เนียบและมั่นใจอีกด้วย
 
น้ำหนักพวงมาลัยกลาง ๆ ไม่หนักเกินไป ในความเร็วต่ำก็ให้ควาเบาสบาย ส่วนความเร็วสูงก็มีความหนืด ๆ ช่วยให้นิ่งและมั่นคงไม่เบาหวิว ยิ่งรถขนาดใหญ่ทรง SUV แบบนี้หากระบบบังคับทิศทางไม่นิ่งจริง จะรับรู้ได้ทันทีและคนนั่งจะมีอาการ "มึด" หรือ "เมา" รถได้งา่ย ๆ อีกด้วยครับ
 
 
ทัศนวิสัยมีด้วยตัวรถเป็นทรงสูงโปร่งแบบ SUV/SAV ทำให้กระจกหน้ามีมุมมองกว้าง กระจกด้านข้างและด้านหลังเห็นภายนอกได้ชัดเจน จุดอับสายตาน้อยมาก ๆ กว่ารถยนต์แบบซีดาน แม้ตัวจะใหญ่เอาเรื่องแต่ก็ขับง่ายไม่ต่างกับรถขนาดเล็ก
 
ท่านั่งขับขี่สบายด้วยเบาะขนาดใหญ่สัมผัสนุ่มและปรับได้หลายระดับ พร้อมกับพวงมาลัยที่สามารถ "ยืด-หด" ได้ระยะที่มาก ตำแหน่งวางเท้าบนคันเร่งและเบรก ไม่เอียงหรือเยื้องไปทางขวาขวานัก นอกจากนี้ยังชอบส่วนใต้คอนโซลหน้าที่มีพื้นที่ว่างโล่ง ๆ เว้นช่องระหว่างคอนโซลกลางเอาไว้ ให้มีพื้นที่ใช้ประโยชน์ได้บ้าง จุดนี้ทำให้รถยิ่งดูโปร่งโล่งสบายตาอีกด้วยครับ
 

ความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ดีเกินคาด!
 
ระบบความปลอดภัยอาจะดูแล้วมีครบถ้วนไม่แตกต่างกับรถระดับเดียวกันมากนัก เช่น ระบบเตือนพร้อมดึงกลับเมื่อออกนอกเลน, ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรก ระบบควบคุมความเร็วแปรผันตามคันหน้าพร้อมตั้งระยะห่างได้ ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลนและรักษให้รถอยู่กลางเลน เป็นต้น
 
แต่ระบบที่ชื่นชอบมากและโดดเด่นจากที่ได้ใช้งานมากหลายวันคือ ระบบเตือนพร้อมดึงกลับเมื่อเปิดมีรถอยู่ด้านข้างมุมอับสายแม้จะเปิดไฟเลี้ยวก็ตาม ระบบนี้ถือว่าดีมาก เพราะว่าแม้เราจะเปิดไฟเลี้ยวแล้วแต่ก้อาจมีมุมที่มองไม่เห้นรถด้านข้าง ๆ หรือกรณีที่รถด้านหลังฝั่งที่จะเบี่ยงเลนไปหานั้น ขับมาอย่างรวดเร็ว ระบบนี้ช่วยเตือนและดึงกลับเข้าเลนเดินให้ทันทีและให้ความนุ่มนวลไม่กระชากจนตกใจอีกด้วย (รถที่มีระบบเตือนมุมอับทั่วไปเปิดไฟเลี้ยวอาจจะตัดการเตือนไปเลย) ยอมรับว่าเหตุการณ์แบบนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ ระบบนี้จึงช่วยให้ปลอดภัยได้มากขึ้นอีกระดับเลยครับ
 

อีกสิ่งที่ชอบมาก ๆ ใน iX คันนี้คือ การเลือกโหมดขับขี่ที่เปลี่ยนได้ตามต้องการ โหมดขับขี่นี้จะรวมถึง Sport เอาไว้ด้วย แต่โหมดที่ชอบสุดคือ RELEX ที่จะเปิดระบบนวดให้เอง ทำให้ขับสบายผ่อนคล้ายยามรถติด ๆได้ดีมาก ๆ ส่วนถ้าระดับแบตเตอรี่เหลือน้อยหรือจำเป็นต้องประหยัดไฟฟ้าให้เลือก EFFICIENT ระบบจะคำนวนพลังงานทั้งระบบในรถยนต์ให้ใช้อย่างประหยัดและทำให้เพิ่มระยะทางคงเหลือที่วิ่งได้อีกประมาณ 20 กม. เลยครับ
 

ระบบการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนใช้ง่ายรวดเร็วต่อเพียบครั้งเดียวก็ใช้ได้ตลอด สามารถดูได้ทั้ง Google Map, Apple Map หรือจะเป้นแผนที่นำทางของรถยนต์เองก็นับว่าใช้ชัดเจนแสดงรายละเอียดครบถ้วน แต่อาจจะใช้งานยากกว่า Google ที่คุ้นเคยเพียงแค่ "กดไมค์แล้วพูดสถานที่ได้แม่นยำกว่า" และอีกฟังก์ชั่นที่ชอบคือ หน้าจอแสดงภาพจากล้องหน้ารถได้อีกด้วย
 

อัตราการกินไฟฟ้าสำหรับรถขนาดนี้ถือว่าไม่เกินเกินไปครับ จากตัวเลขบนมาตรวัดราว ๆ 20 kWh กับพลังระดับนี้นับว่าเหมาะสมไม่กินเกินไป และระยะที่วิ่งได้จริงจากวันที่รับรถมาทดสอบแบตเตอรี่ 99% ระะทางวิ่งได้ 533 กม. ขับไปกว่า 290 กม. ระดับแบตฯ ลดลงเหลือ 36% ระยะทางคงเหลือ 255 กม. นั่นคือสามารถวิ่งจริงประมาณ 500 - 540 กม. จากสเปคที่ระบุไว้  549- 630 กม. (WLTP) sinv 620 กม. (NEDC)  และเมื่อชาร์จไฟฟ้ากลับโดยตู้ชาร์จ PTT จาก 36 - 75% ระยะเวลา 50 นาที แวะกินข้าวสบาย ๆ พลังงานที่ใช้ 47.1 kWh (ตู้ชาร์จที่ใช้) จ่ายไป 362.67 บาทเท่านั้น อาจจะดูแพงเพราะสถานีชาร์จจะคิดอัตรา 7.70 บาท/kWh ตกกก.ละ 1 บาทกว่า ๆ ครับ สำหรับรถคันใหญ่สเปคดุดันอย่าง IX xDrive50 Sport คันนี้
 
 
สรุปความคุ้มค่ากับราคา

BMW iX xDrive 50 Sport เหมาะกับผู้ต้องการซื้อเทคโนโลยี ใช้งานความคุ้มค่าของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 100% ใช้ขับขี่ระยะทางมาก ๆ ต่อวัน ต้องการพื้นที่อเนกประสงค์แบบ SAV เดินทางได้ขึ้น-ลงเข้า-ออกรถได้อย่างสะดวกสบายทั้งครอบครัว ผู้ต้องการใช้งานระบบต่าง ๆ ที่ทันสมัย และต้องการรถขนาดใหญ่ ๆ ในการเดินทางหรือใช้ในชีวิตประจำวันและวิ่งได้ระยะทางที่มากต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หรือใช้งานเป็น Daly Use แทนรถน้ำมันหรือคันเดิมที่ใช้งานอยู่ และต้องเป็นคนที่เปิดกว้างเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าและสะดวกสบายในการติดตั้งแท่นชาร์จที่บ้านและเป็นรถคันที่ 2 หรือ 3 ของบ้านจะยิ่งดีเลยครับ 
 

สำหรับผม BMW iX คันนี้นับเป็นรถที่มีเทคโนโลยีทันสมัย มีความอเนกประสงค์และคุ้มสมราคาค่าตัวระดับ 6 ล้านมากที่สุดอีกรุ่นหนึ่งเลยครับ กับราคา 6,649,000 บาท รวม BSI 4 ปี ไม่จำกัดระยะทางแล้ว คุ้มครับ

11
โพสประกาศขายฟรี / รถยนต์ไฟฟ้า 2024: เอ็มจี MG-4 Long Range (V)-ปี 2024
« เมื่อ: วันที่ 9 กันยายน 2024, 15:34:29 น. »
รถยนต์ไฟฟ้า 2024: เอ็มจี MG-4 Long Range (V)-ปี 2024
889,900 บาท

เอ็มจี MG-4 Long Range (V)-ปี 2024
MG4 LONG RANGE (V) รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100% มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “ICON” นิยามของการเป็นต้นแบบและมาตรฐานใหม่ของรถอีวีที่ขับสนุก พัฒนาบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ที่ดีไซน์มาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ พร้อมจุดเด่นอันหลากหลาย อาทิ การกระจายน้ำหนัก แบบสมมาตร 50:50 ตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ (Low Centre of Gravity) ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังอิสระแบบ 5-Link Suspension ทำให้ NEW MG4 ELECTRIC มีสมรรถนะและการควบคุมที่ดีเยี่ยม พร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM 26 ระบบ โดย เอ็มจี ได้ต่อยอดความสำเร็จของยนตรกรรมรุ่นนี้

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์               MG
   รุ่น                   เอ็มจี MG-4 Long Range (V)-ปี 2024
   ประเภทรถ          รถอเนกประสงค์ SUV, Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว          2024
   ราคา               889,900 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
สปอยเลอร์หลัง (Twin Aero Wing)
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
ไฟท้าย LED (พร้อมไฟ Position)
ไฟหน้า LED
ขนาดยางหน้า-หลัง (235/45R18)
ไฟ Daytime Running Lights
ล้ออัลลอย (18นิ้ว)

   ภายใน
ตกแต่งภายใน (ด้วยวัสดุ Soft Touch)
พวงมาลัยหุ้มหนัง
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้ (,เข้า-ออกได้)
ภายในโทนสีดำ (2 Tone (เทา-ดำ))
กระจกมองหลังตัดแสง (อัตโนมัติ)
พวงมาลัยไฟฟ้า (Dual Pinion (DP-EPS))

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า               มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า) แรงม้า
   ระบบเกียร์                   เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์
   ระบบเบรค ABS           มี
   ชนิดแบตเตอรี่              ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่          64 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง    540 กม.
  น้ำหนักตัวรถ                        -
   ประเภทยางรถยนต์                -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)             ล้ออัลลอย (18นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน             ขับเคลื่อนล้อหลัง

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (SCS,ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC,ป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS)
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
ไฟเบรกดวงที่ 3 (LED)
สัญญาณเตือนถอยหลัง
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (พร้อมระบบกเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรินิกส์ EBA)
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS,ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS,ช่วยเตือนการชน FCW และระบบช่วยเบรก AEB)
เข็มขัดนิรภัย (คู่หน้าแบบดึงกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ)
อื่นๆ (ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และช่วยควบคุมเมื่อออกนอกเลน ELK, I-SMART)
ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน
กล้อง (มองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ)
เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning - BSW) ((LCA,BSD,RCTA,RCTB,DOW,RCW))
เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HSA
เบรกมือไฟฟ้า (พร้อมระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX)

12
จัดฟันเด็ก: หลายคนสงสัย EF Line คืออะไร

การจัดฟันในปัจจุบันนั้น มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ซึ่งในสมัยนี้การจัดฟันในเด็กนั้น ก็ถือว่าได้รับความสนใจจากพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นจำนวนมาก ที่อยากจะให้บุตรหลานของท่านมีฟันที่สวยงาม มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งการจัดฟันในเด็กนั้น สามารถจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 4-15 ปี เพราะในวัยนี้เด็กยังมีกระดูกขากรรไกรที่ยังเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเหมาะสมที่จะเข้ารับการจัดฟัน เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการจัดฟันในเด็กนั้น ก็มีการนำนวัตกรรมรูปแบบใหม่ที่เข้ามาช่วยในการรักษา ทำให้ฟันของเด็กเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสมและสวยงาม ซึ่งเครื่องมือที่ว่านั้นก็คือ EF Line ที่จะช่วยในเรื่องของการปรับโครงสร้างของใบหน้าให้อยู่ในรูปร่างที่เหมาะสม ถือว่าเครื่องมือ EF Line เป็นเครื่องมือการรักษาทางทันตกรรมในรูปแบบใหม่


โดยอาศัยแรงที่ได้จากกล้ามเนื้อให้เกิดการปรับโครงสร้างกระดูกใบหน้าและให้มีการเรียงตัวของฟันที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ส่งผลให้บุตรหลานของท่านมีรอยยิ้มที่สดใส สมวัยด้วย ถ้าหากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจที่จะให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กด้วยเครื่องมือ EF Line ก็ควรที่จะศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับการจัดฟันในเด็กก่อนได้ หรือปรึกษาทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญที่จะให้ความรู้ในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก ให้กับบุตรหลานของท่าน เพื่อที่จะได้ปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง ซึ่งทางคลินิกของเราก็มีทันตแพทย์ที่จะช่วยให้คำแนะนำในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก หากสนใจสามารถเข้ารับคำแนะนำได้ แต่ในวันนี้ทางคลินิกของเรา จะมาพูดเครื่องมือ EF Line เพื่อเป็นความรู้ให้กับท่านที่สนใจที่จะนำบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก


สำหรับเครื่องมือ EF Line นั้น เป็นชุดเครื่องมือการจัดฟันในเด็กที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติได้และยังช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูก เพราะกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างของเด็กในวัยนี้ ยังมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็มีมากน้อยตามแต่ช่วงอายุของเด็ก นอกจากนี้เครื่องมือ EF Line ยังถูกออกแบบมาเพื่อทำการปรับเปลี่ยนการหายใจให้ถูกวิธี รวมถึงการใช้เครื่องมือเพื่อช่วยปรับการกลืนให้ถูกต้องอีกด้วย เรียกได้ว่า เครื่องมือ EF Line นั้น แทบจะแก้ปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กได้อย่างล้ำลึก ตั้งแต่กล้ามเนื้อไปจนถึงฟันเลยทีเดียว


อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของพฤติกรรมในเด็กที่มักจะพบเจอได้บ่อย นั่นก็คือ ปัญหาในเรื่องของการดูดนิ้ว กัดเล็บ กัดริมฝีปาก หายใจทางปากเป็นประจำ หรือมีการกลืนที่ผิดปกติ พฤติกรรมเหล่านี้ก็มีผลต่อการเรียงตัวของฟันของเด็กด้วย หรืออาจมีผลต่อการเจริญเติบโตของใบหน้าและขากรรไกรที่ผิดปกติ ทำให้ต้องมารับการจัดฟันเร็วขึ้น เพื่อป้องกันหรือแก้ไขความผิดปกติเหล่านั้น ซึ่งเครื่องมือการจัดฟันในเด็ก EF Line ก็สามารถแก้ไขพฤติกรรมดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ


อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องมือการจัดฟัน EF Line ก็ถือว่าจัดเป็นงานการประยุกต์และปรับปรุงการเจริญเติบโต ซึ่งจะได้ผลดีเมื่อเริ่มในเด็กที่มีการสบฟันที่ผิดปกติ ฟันยื่น โดยสามารถแก้ไขฟันได้ภายใน 6-9 เดือน หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อแก้ไขปัญหาฟันได้ในระยะยาว สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก ทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาสุขภาพฟันของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นอกจากนี้ ทันตแพทย์จะแนะนำในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟันที่ถูกต้อง เพื่อให้เด็กได้ตระหนักและเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันให้มากเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้ปลูกฝังให้เด็กมีความรับผิดชอบในเรื่องของการรักษาสุขภาพช่องปากและฟันตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี รวมไปถึงมีรอยยิ้มที่มั่นใจ สดใส เสริมสร้างบุคลิกภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่และมีความสุข

13
บริการด้านอาหาร: อาหารที่กินแล้วมีแรงช่วยให้ตื่นตัว

หลายครั้งที่เราทำงานหนักติดต่อกันหลายๆ วัน หรือช่วงที่พักผ่อนไม่เพียงพอ จนทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนล้า ไม่มีแรง แม้จะนอนตลอดเวลา ก็ยังรู้สึกไม่สดชื่น หรือมีอาหารอ่อนเพลียตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะหนุ่มสาวในวัยทำงานที่อาจจะทำให้ร่างกายรู้สึกล้าได้ง่าย และอาจจะส่งผลทำให้ป่วยได้ง่าย ดังนั้น อาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวันนั้น



อาจเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่ช่วยแก้อาการอ่อนล้าไม่มีแรงได้ หรือในกลุ่มผู้ป่วยที่เพิ่งฟื้นจากอาการเจ็บป่วย และอาจจะมีอาการอ่อนเพลียไม่มีแรง หรือรู้สึกว่าร่างกายฟื้นตัวได้ช้า นั่นอาจเป็นเพราะว่าร่างกายขาดพลังงาน จึงส่งผลต่อกิจกรรมประจำวันของเรา โดยชนิดและปริมาณของอาหารที่เรารับประทานในแต่ละมื้อ ในแต่ละวัน มีบทบาทสำคัญมาก ๆ ต่อระดับพลังงานของเรา ดังนั้น วันนี้ทางเราจะมาแนะนำอาหารที่มีสารอาหารที่สามารถช่วยเพิ่มระดับพลังงานและช่วยทำให้ตื่นตัวและโฟกัสได้เต็มที่

ถ้าหากเราพูดถึงเรื่องอาหารที่ให้พลังงานสูง คงหนีไม่พ้นอาหารประเภทโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เพราะแหล่งอาหารสำคัญที่ให้พลังงานและช่วยเสริมสร้าง ซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งเราควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย คือการรับประทานโปรตีน 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมจึงถือว่าเพียงพอ แต่ถ้าหากออกกำลังกายอย่างหนักก็ควรเพิ่มปริมาณของโปรตีนให้เหมาะสม และควรเลือกเนื้อสัตว์ประเภทไม่ติดมัน เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ หรือเนื้อแดงไม่ติดมัน เป็นต้น

นอกจากนี้ ไข่ไก่ ก็เป็นอาหารที่ให้โปรตีนสูง อุดมไปด้วยวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยให้ปรับระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการผลิตพลังงานในร่างกาย ช่วยลดไขมัน ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย และยังมีส่วนประกอบของกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย มีโคลีนที่จำเป็นสำหรับสุขภาพสายตา ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นอีกด้วย ต่อมาคือ ถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ พิสตาชิโอ วอลนัต พีแคน บราซิลนัต เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ไพน์นัต เป็นกลุ่มของถั่วเปลือกแข็งมีสารอาหารสูง ให้พลังงาน

โดยเฉพาะกลุ่มของไขมันที่ดีต่อสุขภาพมากๆ รวมไปถึง ถั่วเหลือง เป็นพืชที่สามารถนำมาต่อยอดเป็นอาหารได้หลายรูปแบบ เช่น แป้งถั่ว นมถั่วเหลือง หรือเต้าหู้ที่ นอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน กรดอะมิโนจำเป็น แร่ธาตุ หรือโปรตีน ที่มีส่วนช่วยในเพิ่มพลังงาน สร้างกล้ามเนื้อ บำรุงร่างกาย ให้สามารถมีแรงมีกำลังทำในสิ่งต่าง ๆ ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ต่อมาคือ ข้าวกล้อง

ซึ่งเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี ทำให้ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่มากกว่าข้าวขาว เช่น เส้นใย วิตามิน และแร่ธาตุ เพราะจำนวนเส้นใยที่มาก ให้น้ำตาลต่ำ จึงช่วยเพิ่มพลังงานได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก หรือน้ำตาลในเลือดสูง แถมยังช่วยรักษาระดับพลังงาน ทำให้รู้สึกอิ่มยาวนาน นอกจากนี้ ผลไม้อย่างกล้วย กล้วย ซึ่งเป็นผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบและหารับประทานได้ง่าย ถ้าหากเราต้องการพลังงานแบบเร่งด่วน กล้วยถือว่าเป็นแหล่งพลังงานที่ดี

เพราะนอกจากจะหาซื้อได้ง่าย รับประทานง่าย ยังมีสารอาหารสำคัญต่อร่างกายหลายชนิด เช่น วิตามินบี 6 วิตามินซี แมงกานีส โพแทสเซียม และเส้นใยอาหารที่ช่วยในการย่อย ดีต่อลำไส้ ดีต่อระบบขับถ่าย และยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญอีกด้วย ต่อมา แอปเปิ้ล ผลไม้ที่เต็มไปด้วยสารอาหารอย่างคาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ และวิตามินที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ

แม้ว่าแอปเปิ้ลจะเป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานในช่วงควบคุมน้ำหนัก แต่ก็ให้พลังงานและวิตามินสูงแล้ว ยังช่วยให้อิ่มท้องได้นานด้วยไฟเบอร์ และเส้นใยอาหารจำนวนมากที่ช่วยชะลอการย่อยของคาร์โบไฮเดรตในร่างกายด้วย ซึ่งอาหารที่เรากล่าวมานั้น เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง หรือเหนื่อยล้าจากการทำงาน ที่ทำให้ร่างกายรู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่า หากหันมารับประทานอาหารเหล่านี้ ก็จะช่วยทำให้รู้สึกตื่นตัว สดชื่นได้

ย่างไรก็ตาม เราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะทางเราเน้นย้ำมาตลอดให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย ควรดื่มน้ำให้มากๆ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น มีแรงที่จะสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ และยังช่วยให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บได้อีกด้วย

14
โพสประกาศขายฟรี / Doctor At Home: กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis)
« เมื่อ: วันที่ 6 กันยายน 2024, 18:05:06 น. »
Doctor At Home: กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis)

กล่องเสียง (larynx) เป็นส่วนที่อยู่ถัดลงไปจากคอหอย (pharynx) และอยู่ตรงส่วนบนของท่อลม (trachea)

การอักเสบของกล่องเสียงเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในคนทุกวัย ส่วนมากจะไม่มีอาการรุนแรงและหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์


สาเหตุ

การอักเสบของกล่องเสียงมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส โดยมากจะเกิดร่วมกับไข้หวัด เจ็บคอ หรือหลอดลมอักเสบ ส่วนน้อยที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย

บางครั้งอาจเกิดจากการระคายเคือง เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือการใช้เสียงมาก (เช่น ร้องเพลง สอนหนังสือ เป็นต้น) หรือเกิดจากการระคายเคืองจากน้ำย่อยในผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน


อาการ

ที่สำคัญ คือเสียงแหบแห้ง บางรายอาจเป็นมากจนไม่มีเสียง อาจรู้สึกเจ็บคอเวลาพูด

บางรายอาจมีอาการไข้ เป็นหวัด เจ็บคอ หรือไอร่วมด้วย

โดยทั่วไป มักเป็นอยู่ไม่เกิน 7 วัน ถ้าเกิดจากการระคายเคืองมักมีอาการเสียงแหบเรื้อรัง


ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนมากมักหายได้เอง ส่วนน้อยอาจมีภาวะแทรกซ้อนจากโรคติดเชื้อที่พบร่วม อาจทำให้เกิดหลอดลมอักเสบ หรือปอดอักเสบ


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

ในรายที่เกิดจากการติดเชื้อ อาจตรวจพบมีไข้ น้ำมูกไหล หรือคอแดงร่วมด้วย

บางรายอาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่เกิดจากการระคายเคือง

ในรายที่มีอาการเรื้อรัง หรือสงสัยมีความผิดปกติของกล่องเสียงหรือโรคกรดไหลย้อน แพทย์อาจทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น ใช้กล้องส่องตรวจกล่องเสียง (laryngoscopy) ใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะอาหาร (gastroscopy)


การรักษาโดยแพทย์

นอกจากแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วย แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้ ยาแก้ไอ

2. เฉพาะในรายที่สงสัยจะมีการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น มีเสมหะเหลืองหรือเขียว หรือคอแดงจัด ให้ยาปฏิชีวนะ (เช่น อะม็อกซีซิลลิน โคอะม็อกซิคลาฟ อีริโทรไมซิน หรือร็อกซิโทรไมซิน เป็นต้น)

3. ถ้ามีอาการหอบ แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล อาจมีสาเหตุจากคอตีบ หรือครู้ป

4. ถ้าเสียงแหบเป็นอยู่นานกว่า 3 สัปดาห์ แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุให้แน่ชัด และให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ

ผลการรักษา ส่วนใหญ่มักหายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์

ถ้าเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย การให้ยาปฏิชีวนะส่วนใหญ่ก็มักหายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ ส่วนน้อยที่อาจมีหลอดลมอักเสบ หรือปอดอักเสบแทรกซ้อน


การดูแลตนเอง

ในรายที่มีเสียงแหบ โดยที่สุขภาพทั่วไปดี กินอาหารและทำงานได้เป็นปกติ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    พักการใช้เสียง ควรหยุดพูดรวมทั้งการกระซิบ จนกว่าอาการจะดีขึ้น
    งดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    ดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ วันละ 8-12 แก้ว (2-3 ลิตร)
    สูดดมไอน้ำอุ่นบ่อย ๆ
    ถ้ามีไข้ กินยาลดไข้-พาราเซตามอล*

ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีไข้เกิน 4 วัน ไข้สูงตลอดเวลา หรือมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย
    มีน้ำมูกหรือเสมหะข้นเหลืองหรือเขียวทุกครั้งนานเกิน 24 ชั่วโมง
    มีอาการเจ็บคอมาก หรือหายใจลำบาก
    คลำได้ก้อนที่ข้างคอ
    มีอาการเสียงแหบนานเกิน 3 สัปดาห์
    ดูแลตนเอง 1 สัปดาห์แล้วอาการไม่ดีขึ้น
    มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 หรือทำการตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจแอนติเจน (ATK) ด้วยตนเองให้ผลเป็นบวก
    มีประวัติการแพ้ยา หรือหลังกินยา มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง

*เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำวิธีและขนาดยาที่ใช้ ผลข้างเคียงของยา และข้อควรระวังในการใช้ยา จากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะการใช้ยาในเด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวหรือมีการใช้ยาบางชนิดที่แพทย์สั่งใช้อยู่เป็นประจำ

การป้องกัน

ควรหาทางป้องกันตามสาเหตุที่ทำให้เสียงแหบ อาทิ

    พักการใช้เสียง ในรายที่เกิดจากการใช้เสียงมาก
    งดบุหรี่/เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าเป็นสาเหตุของอาการเสียงแหบ
    ในรายที่เกิดจากไข้หวัด ก็หาทางป้องกันไม่ให้เป็นหวัด
    ในรายที่เกิดจากโรคกรดไหลย้อน ควรดูแลรักษาโรคนี้ไม่ให้กำเริบบ่อย (ดู “โรคกรดไหลย้อน”)

ข้อแนะนำ

1. ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 หรือมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโรคนี้ หากมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ (เช่น ไข้ เจ็บคอ เสียงแหบ น้ำมูกไหล ไอ ท้องเดิน หายใจเหนื่อยหอบ) หรือทำการตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจแอนติเจน (ATK) ด้วยตนเองให้ผลเป็นบวก ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

2. อาการเสียงแหบมักพบในผู้ที่เป็นหวัด เจ็บคอ หรือไอ ผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์จัด และผู้ที่ใช้เสียงมาก (เช่น ครู นักเทศน์ นักร้อง เป็นต้น) โดยมากจะเป็นอยู่เพียงไม่กี่วัน เมื่อได้รับการดูรักษาแล้ว เสียงควรจะดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์

แต่ถ้าพบว่ามีอาการเสียงแหบติดต่อกันนานกว่า 3 สัปดาห์ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ อาจมีสาเหตุอื่น ๆ เช่น

    ปุ่มเนื้อของสายเสียง (vocal cord nodules) เป็นปุ่มเนื้องอกเล็ก ๆ ที่เติบโตจากเซลล์เยื่อบุผิว (epithelium) ของสายเสียง มีสาเหตุมาจากการใช้เสียงมากเกิน เช่น ครู นักเทศน์ นักร้อง เป็นต้น การพักใช้เสียงเป็นเวลาหลายสัปดาห์อาจทำให้ปุ่มยุบหายไปได้เอง ถ้าไม่ได้ผลอาจต้องตัดออก ผู้ที่เป็นโรคนี้แพทย์จะฝึกการใช้เสียง (voice therapy) ให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้เป็นซ้ำอีก
    ติ่งเนื้อเมือกของสายเสียง (vocal cord polyps) เป็นเนื้องอกของเซลล์เยื่อเมือก (mucous membranes) ของสายเสียง เกิดจากภาวะภูมิแพ้ หรือการระคายเคืองเรื้อรัง (เช่น สูบบุหรี่) มักต้องรักษาด้วยการผ่าตัดติ่งเนื้อออกไป
    หูดกล่องเสียง (laryngeal papillomatosis) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า human papillomavirus (HPV) ทำให้เกิดเนื้องอก (หูด) ตรงสายเสียงและกล่องเสียง ทำให้มีเสียงแหบเรื้อรัง ถ้าก้อนโตอาจอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้หายใจลำบาก มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี และจะหายได้เองเมื่อเข้าวัยหนุ่มสาว มักจะต้องรักษาด้วยการตัดออก
    โรคกรดไหลย้อน ทำให้มีอาการเจ็บคอเสียงแหบ หรือไอเรื้อรัง มักเป็นมากหลังตื่นนอน (ดู “โรคกรดไหลย้อน”)
    แผลสายเสียง (contact ulcer of vocal cord) พบในผู้ที่ใช้เสียงมากเกิน สูบบุหรี่ ไอเรื้อรัง หรือผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน ทำให้มีอาการเสียงแหบ เจ็บเวลาพูดหรือกลืน ให้การรักษาตามสาเหตุ เช่น ถ้าเกิดจากการใช้เสียง ต้องพักการใช้เสียงนาน 6 สัปดาห์ และฝึกการใช้เสียงให้ถูกต้อง ถ้าเกิดจากโรคกรดไหลย้อนก็ต้องให้ยาลดการสร้างกรด เป็นต้น
    มะเร็งกล่องเสียง พบมากในผู้ชายสูงอายุที่มีประวัติสูบบุหรี่จัดมานาน
    สายเสียงเป็นอัมพาต (vocal cord paralysis) อาจเกิดจากโรคทางสมอง (เช่น เนื้องอกสมอง อัมพาต) หรือภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ โดยตัดถูกเส้นประสาท (laryngeal nerve) ที่ควบคุมการทำงานของสายเสียง ซึ่งมักจะทำให้เกิดอาการเสียงแหบอย่างถาวร
    วัณโรคกล่องเสียง (tuberculous laryngitis) ทำให้มีอาการเสียงแหบเรื้อรัง อาจมีอาการของวัณโรค (เช่น ไข้เรื้อรัง ไอเรื้อรัง น้ำหนักลด) ร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้

15
รถกระบะรับจ้าง รถรับจ้างจันทบุรี ขนของ ตู้ เตียง โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ที่นอน และอื่นๆ

รถรับจ้างจันทบุรี รถรับจ้างทั่วไป รถ6ล้อขนของ รถกระบะรับจ้าง 10ล้อรับจ้างขนสินค้าเยอะๆ ขนส่งทั่วประเทศไทย ทั้งในกทม. และต่างจังหวัด หกล้อรับจ้างขนของมีพร้อมบริการตลอดเวลา ขนส่งสินค้าต่างๆ บรรทุกได้เยอะกว่าเดิม คุ้มเกินราคา! บริการรถกระบะรับจ้าง บริการขนย้ายทุกชนิด พื้นที่ให้บริการ กรุงเทพ-ปริมณฑล-ต่างจังหวัด หากคุณลูกค้ามีการวางแผน ที่จะย้ายบ้าน ย้ายคอนโด ย้ายหอพักหรือ ขนย้ายสินค้าต่างๆ เรามีบริการรถรับจ้างให้คุณลูกค้าเลือกใช้บริการทั้งแบบ ประเภทรถกระบะรับจ้างขนสินค้า ประเภทรถหกล้อรับจ้าง และประเภทรถสิบล้อรับจ้างขนส่งสินค้า

ซึ่งมีการให้บริการทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และเรายังมีการบริการรถรับจ้างใหคุณลูกค้าในต่างจังหวัดทั่วประเทศด้วยครับ ไม่ว่าจะอยู่อำเภอใด ตำบลใดเราสามารถเข้าถึงและให้บริการรถรับจ้างเหล่านี้ให้แก่คุณลูกค้าได้ เรายึดหลักความ ซื่อสัตย์สุจริตเป็นสิ่งสำคัญจึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าด้วยดีเสมอมา มีลูกค้าไว้วางใจให้ความเชื่อมั่นใช้รถกระบะรับจ้างผมและทีมงานเป็นจำนวนมากครับ เพราะด้วยประสบการณ์มากว่า15ปี ทำให้การขนย้ายของเป็นไปด้วยความ รวดเร็วทันใจ มีความเป็นมืออาชีพ เป็นกันเองทั้งคนขับรถและเด็กยกของ การขนย้ายจะใช้เวลาไม่ใช้เวลานานครับ ข้าวของไม่มีเสียหายด้วย ผมบริการรถกระบะรับจ้างทุกที่ครับ กรุงเทพ ต่างจังหวัด เราย้ายหมด บริการ ขน ของ ย้าย บ้าน


ไม่ว่าจะฝนตกรถติด รถกระบะรับจ้างของผมจะไปให้ถึงตามที่ตกลงการขนย้ายกับลูกค้าไว้ครับ ไม่มียกเลิกงานแน่นอน100% หากรถกระบะเสียระหว่างทาง ทางเราจะเปลี่ยนรถคันที่อยู่ใกล้ที่สุดไปให้ครับ ให้ลูกค้าสบายใจได้ ได้ย้ายห้องอย่างแน่นอนครับ รถกระบะรับจ้างที่ใช้ในการขนย้าย ก็ตามรูปด้านล่างเลยนะครับ คือจะเป็นกระบะตอนเดียว หลังคาสูง เป็นตู้อลูมิเนียมปิดทึบน่ะครับ รถกระบะรับจ้างขนส่ง รถกระบะรับส่งของ ขนของ ตู้ เตียง โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ที่นอน และอื่นๆ ที่ต้องการครับเปิดทำการทุกวันครับ ย้ายได้ไม่เว้นวันหยุด สนใจย้าย ย้ายของย้ายบ้าน ติดต่อมาได้เลยครับ

หน้า: [1] 2 3 ... 11






















































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า